เรื่องเล่าวงการอิเล็กทรอนิกส์ และสิ่งที่อยากเห็น
มันมีหลายเรื่องที่เกี่ยวกัน
เล่าสู่กันฟัง ผมเฝ้าดูความเปลี่ยนแปลงของวงการแถวๆ บ้านหม้อมาร่วม 15 ปี (แก่จัง) บ้างก็เปลี่ยนแปลงในทาง
ที่ดี หลายอย่างหายไปและเสียดายมากจะเนื่องมาจากโลกที่เปลี่ยนแนวคิดคน หรือคนเจริญลง? แผงขายหนังโป๊
เกลื่อนตาห่างสันติบาลแค่ 20 เมตร ขายได้ปลอดภัย คนเก็บขยะเอาจากเขาทิ้งมาขาย ปรับ 2 แสน ชีวิตคนจน...
ตอนผมเริ่มเล่นอิเล็กฯ มีชุดคิตพื้นฐานไม่ต่ำกว่า 5 ยี่ห้อ
วารสารหนังสือเล่มแรกที่ผมอ่านคือ อิเล็กตรอน 79 / เซมิฯ / CEW ตามลำดับ
สมัย นั้นไม่ไฮเทค แต่ก็มีเรื่องที่อยากเล่นมากมาย เครื่องเสียงปรี-โทน+แอมป์ วิทยุAM-FM ต่อเทปใบ้ CB
รับ-ส่ง ไฟวิ่ง EQ. ต่อตู้ลำโพง เอฟเฟ็คกีต้าร์ ถึงแม้หลายๆบทความ จะได้รับการแปลมาจากวารสารต่างประเทศก็ตาม
แต่ในบทความที่เขียน ได้สอดแทรก"วิญญาณ" ของช่าง-นักประดิษฐ์ ลงไปด้วย โครงงานธรรมดา ก็ดูสนุกและน่าสนใจ
ในปี '91 เราได้พบกับงานอิเล็กทรอนิกส์ที่คอนเวนชั่นฮอลล์ เซ็นทรัลลาดพร้าว ที่ดูน่าสนใจเป็นที่สุด เราได้เห็นบู๊ต
ของสถาบันการศึกษาหลายที่ ที่พัฒนางานด้านอิเล็กทรอนิกส์ ตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจยิ่งนัก
พอถึงปี '94 คอมพิวเตอร์ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น โครงงานเกี่ยวกับเครื่องคอมก็เริ่มมีสีสันมากขึ้น
เริ่ม ปี 95-97 เศรษฐกิจดีเหลือเชื่อ เริ่มถึงช่วงต่อมาเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางการทำมาหากิน ขายเครื่องเสียง
-ระบบแสงสีเป็นล่ำเป็นสัน บ้างก็แตกตัวกันก็มี
ในช่วงก่อนนั้นพันธ์ทิพย์ (ปี '94) จากห้างเกือบร้าง โตวันโตคืน สวนทางกับบ้านหม้อซะนี่กระไร
และ เริ่มสู่ยุคเสื่อม ในปี '95 คนที่เข้ามาใหม่ในวงการ ต้องยอมรับว่า นักเรียน-นักศึกษาช่วงเวลานี้ หลายสิบเปอร์เซ็นต์
ไม่มีความรู้ความสนใจในเรื่องอิเล็กทรอนิกส์ วิศวะหลายๆที่ ได้เด็กที่รู้แต่เพียงว่าจบมาได้ตังค์เยอะๆ สาขายอดฮิตคืออิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคม (เพราะใครคงไม่ต้องพูดถึง)
ตามมาติดๆด้วยคอมพิวเตอร์ เพราะทิศทางจากเบื้องบน เขาเล่าว่าอย่างนั้น
พอ ปี '98 ฟองสบู่แตกกระจาย ถึงยุคมืดของวงการอิเล็กฯ ชุดคิดเหลืออยู่เฉพาะบิ๊กๆ หรือไม่ก็เฮาส์แบรนด์
(ที่ร้านขายอะไหล่ทำเอง) วารสารก็มีเรื่องราวในการนำเสนอน้อยลง เพราะเริ่มเข้าสู่ยุค Information ผ่านอินเตอร์เน็ต โลกานุวัตร (โลกปรับเปลี่ยนให้เล็กลง)ข่าวสารไวขึ้นมาก คอมพิวเตอร์ มีบทบาทสูง แต่ช่วงนั้นยังมีคนรู้อยู่น้อย
แต่ทุกคนต้องการอยู่รอด...คนที่มีความรู้หลายคน ผันตัวเองเข้าสู่คอมพิวเตอร์ เพราะใช้ใบบุญเก่าของอิเล็กทรอนิกส์ได้
คนที่ไปไม่ไหว ก็เริ่มกลายคนที่ทำมาค้าขาย ซื้อมา-ขาย "ไว" บางร้าน-บางผู้ผลิตที่ปรับตัวเองไม่ได้ ก็ล้มหายไป
และแน่นอนว่า ไม่ได้มีเพียงเราที่ต้องปรับตัว ต่างชาติก็ต้องปรับด้วยเช่นกัน
รวมถึง "จีน" คู่ค้าสำคัญของไทย
เครื่อง ใช้ไม้สอยต่างๆ และคนในสังคมไทย ได้ถูกปรับเปลี่ยนทรรศนะคติ ไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว จากการตลาดในยุคนี้
ได้แก่เครื่องเสียง โทรศัพท์มือถือ VCD DVD TV LCD LED จากคนที่ต้องการความดี แข็งแรง ทนทาน ปราณีต
และยอมรับว่าราคาสมเหตุสมผลกับคุณภาพมาเป็นคนที่ซื้อหน้ากาก ลูกเล่นแบบฉาบฉวย ใช้ไป 1 ปี พังแล้วสามารถ
ทิ้งและซื้อใหม่ได้โดยไม่เสียดายมากนัก เพราะมันถูก??
คน ที่ทำอาชีพช่างซ่อมก็อยู่ยากขึ้น เริ่มมีงานน้อยลง เพราะของมันซ่อมแบบดิบๆยากขึ้น การซ่อมก็เลยแทนที่ด้วย
การเปลี่ยนอะไหล่และ เป็นเหตุให้ความรู้ของช่างเก่าที่ใช้ เริ่มขึ้นสนิม และช่างหน้าใหม่ก็เข้าใจว่าการเปลี่ยนคือการ
ซ่อม ทำให้ความเข้าใจรากหญ้าในหลายๆเรื่องถูกละเลยไป และมองว่าไร้ค่า
แต่ ความสะดวกและง่ายเกินไป ก็ไม่ได้หมายความว่าคนจะมีจิตใจที่ดีขึ้น หลายคนเก็บเอาไว้เป็นเคล็ดลับเพื่อหากิน
(หลอก)(นี่ไม่ได้แปลว่าโง่นะครับ แปลว่าไม่รู้ไม่เข้าใจ)กลายเป็นกลุ่มสังคมที่เล็ก และ มีอัตตาสูง
ในขณะเดียวกัน กลุ่มคอมพิวเตอร์ ที่มีการเจริญเติบโตอย่างมาก ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า จะซื้อคอมพิวเตอร์ได้ต้อง
เป็นคนมีตังค์พอสมควร อัตราส่วนเงินที่ใช้จ่ายมันต่างกัน ทรรศนะคติของความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มันมีมูลค่าสูงกว่า
วารสารคอมพิวเตอร์จึงผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ความคิด-ความเห็นของคนจึงเริ่มขยายตัว และเข้าสู่คนหมู่มากได้ง่ายกว่า
คนหนึ่งมองคอมพิวเตอร์ด้วย R-C-TR-IC ลงรายละเอียด อีกคนมองเมนบอร์ด-ฮาร์ดดิสก์-CPU-จอมอนิเตอร์ มองเป็นโมดูล
คน เล่นคอมพิวเตอร์มีตังค์ การใช้จ่ายเงินในกลุ่มนี้จึงไม่ใช่หลัก 1000 บาท แต่มากกว่าสามสิบเท่า ความเสียดายในค่า
ความรู้ในหนังสือจึงไม่เท่ากันระหว่างสองกลุ่ม และแน่นอนเมื่ออาการ"คิดมาก"น้อยกว่า กลุ่มอิเล็กฯ การเผยแพร่ความรู้ก็มี
ทรรศนะคติในทางบวกมากกว่าคือแบบพึ่งพา ถ้อยที ถ้อยอาศัย แนะนำกันไป
ผมเองก็อยู่ทั้งสองฝ่าย แต่บรรยากาศบางอย่างบ่งบอกว่า ในกลุ่มอิเล็กฯ มีความเป็นมิตรน้อยลง พอเข้าสู่ 2 ปีก่อนหน้านี้
ผมรู้แล้วว่าทำไมและก็พอได้คำตอบบ้างแล้วพอกลุ่ม คอมพิวเตอร์มันมากขึ้นจนกลายเป็นสินค้า Mass product ขายใคร
ก็ได้ ด้วยเค้กก้อนโต คนค้าขายก็แห่กันไป ตัดราคากันสะบั้นหั่นแหลก และได้ตัดทอน ความแข็งแรง ดีทน ด้วยความใหม่
สด - พังแล้วทิ้งเช่นเดียวกัน เหมือนเล่นรถกระป๋อง....เริ่มเข้าสู่ยุคถดถอยนิดๆแล้ว
เพราะตอนนี้ "ฅนไทย" กำลังถูกปรับทรรศนะคติให้กลายเป็นคนบ้าของเล่น และบางครั้งก็กลายเป็นของเล่นโดยไม่รู้ตัว
ของดีไม่มีความหมายนัก ถ้าอีกสิ่งมันถูกกว่าและใช้ทดแทนได้ซุปเปอร์สโตร์ ห้างใหญ่เข้ามา ร้านเล็กปิดไป และถ้า
วันหนึ่งไม่เหลือร้านเล็กเลย เราก็ไม่มีทางเลือกมากนัก
เราจะมานั่งต่อเครื่องเสียงวิทยุทำไม ในเมื่อซื้อของจีนได้ถูกกว่า... ถ้าไม่ใช่ว่า เขาเป็นคนอยากรู้ อยากทำจริงๆ และ
ต้องการรู้ลึกคนแบบนี้ นับวันๆ จะมีน้อยลงครับ ถ้าพวกเราเองไม่ได้สอนตัวเอง และลูกหลานให้เป็นคนใฝ่รู้
ใน เว็บบอร์ดฝรั่ง บรรยากาศดีมาก เพราะวัฒนธรรมของเขาคือใฝ่รู้ ถามแบบมีข้อมูล และไม่อยากให้คนอื่นมองตัวเอง
ว่าเป็นไ อ้ งั่ง (jerk) และเมื่อเขารู้ เขาก็นำไปทำ และพัฒนา และด้วยวัฒนธรรมของฝรั่งอย่างหนึ่งคือ ไม่ว่าเขาจะทำ
อะไรเขาจะภูมิใจในสิ่งที่ทำอยู่เสมอ ถึงจะเป็นเรื่องที่น้อยนิดก็ตาม
หันกลับมาดู คนไทยทำอะไรบ้าง วัฒนธรรมของคนไทยเรา มีอยู่ แต่ถูกบดบัง ต้องมีอะไรกระทุ้งแรงๆ ถึงจะออกมาได้
เพราะฉะนั้น อยากให้เราเป็นคนไทยยุคใหม่ เป็นคนที่ผสานแนวคิดที่ดีของตะวันออก และตะวันตกเข้าด้วยกัน
ถึงคนไทยจะไม่ใช่ Inventor ที่ดีนัก แต่คนไทยได้ชื่อว่าเป็นคนที่เรื่องมากที่สุด ต้องดีที่สุด สมบูรณ์ที่สุด ในทุกๆ
ด้านเราเอามาประยุกต์ใช้ ให้คนไทยคิดเป็น รู้เหตุ-รู้ผล ทางแก้ไขปรับปรุง มิให้เกิดปัญหาในอนาคต ปราณีต
และเอื้อเฟื้อกัน
สำหรับ มือใหม่ ก็ต้องรู้จักหาความรู้จากตำราหลายๆเล่มด้วยเช่นกัน ไม่ใช่แค่คำบอกเล่า คุณต้องศึกษาจาก
พื้นฐานด้วยและต้องจริงใจในการได้มาซึ่งความรู้ อย่าควักเอาความรู้แบบฉาบฉวยไปใช้ เพราะมันไม่มีประโยชน์
คำตอบจากในกระทู้เว็บบอร์ด มันเป็นความเห็นและประสบการณ์เพิ่มเติมที่แลกเปลี่ยนกัน บ้างก็ถูก บ้างก็ผิด
คุณก็ต้องคิดตาม ไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นนกแก้วนกขุนทอง ตอบคำถามไม่ได้
คนเรารับรู้ได้จาก 5 สัมผัส คือ
มองเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น รับรส กายสัมผัส
แต่คนเราเรียนรู้ได้วิธีเดียวคือ การนำเอา 5 สัมผัส มาคิดพิจารณาหาเหตุผลด้วยสมอง เพราะ ฉะนั้น เรื่องการเผยแพร่
เว็บความรู้ ที่หลายๆคนเคยทำ แต่ถูกพวกไม่สร้างสรรค์ถล่มว่า งั้นๆบ้าง ไม่ได้เรื่องบ้าง ไม่ให้กำลังใจกันตั้งแต่เริ่มต้น
ตั้งไข่ก็ขออย่าเพิ่งเลิกหรือท้อแท้ เลยครับ หลายคนก็เฝ้ามองดูอยู่ห่างๆ เช่นเดียวกับผม...
ขอสนับสนุนทุกคน เพราะเชื่อว่าต้องการให้คนในวงการนี้ มีมากขึ้น และสามารถพัฒนาขึ้นได้และเมื่อคนมีประสบการณ์
มากขึ้น อายุ ความคิดความอ่านมากขึ้น ทุกอย่างมันจะปรับเข้าสู่สมดุลในตัวมันเอง
คนที่อยู่ได้ก็ปรับตัวให้ดีขึ้นเรื่อยๆ คนที่เข้ามาใหม่ก็ต้องพัฒนาตัวเช่นกัน
ไม่ มีใครรู้มาแต่กำเนิด แต่มนุษย์วิวัฒนาการ เจริญขึ้นมาได้ เพราะเป็นผู้ใฝ่รู้ และทำให้มนุษย์พัฒนาไปมากใน
200 ปีที่ผ่านมา
และ การศึกษาต้องเริ่มจากเนื้อหาในตำราหลายๆเล่ม เพิ่มเติมด้วยความรู้จากผู้อื่น ที่มิใช่เพียงคำพูด แต่ต้องเป็นสิ่ง
ที่ค้นคว้าและพิสูจน์ได้และที่สำคัญที่สุดคือ ตัวเราเองที่ต้องรวมความคิดเหล่านั้น มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่
เพียงเพื่อตัวเราเองเท่านั้น แต่ก็เพื่ออนาคตของลูกหลานเราด้วย ที่จะต้องใช้ชีวิตในสังคมต่อไป ด้วยความสงบสุข
และเจริญยิ่งๆขึ้นไป
ขอให้สิ่งที่ได้บอกไว้ เป็นทั้งกำลังใจ และความหวังความฝัน ของทุกๆคน
ขาประจำ..
http://www.ms-kit.com
คิวอาร์โค้ด
ID: mskit.shop
ADD ส่งเกมส์ถูกบล็อก
สั่งซื้อทางไลน์ ทำได้โดย คลิ๊กสินค้านั้น
ลงตะกร้าก่อน เพื่อดูราคาที่รวมค่าส่ง
จากนั้นทำการโอนเงินและ แจ้งการโอนเงิน
แจ้งสินค้าที่ท่านต้องการ พร้อมชื่อ-ที่อยู่ ที่
จะให้จัดส่งให้ชัดเจน เลขพัสดุ EMS
จะแจ้งให้ท่านทาง LINE เช่นกัน
แต่หากสามารถทำรายการทางหน้าเวป
ได้จะเป็นผลดีกว่า (ขอแนะนำ) เพราะ
จะสามารถตรวจสอบการจัดส่ง และ ดู
ประวัติย้อนหลังได้
สินค้าที่ไม่มีประกาศขาย
กรุณางดสอบถาม และไม่รับจัดหาของ
ต้องขออภัยอย่างสูงที่ขอสงวนคำตอบ
หน้าที่เข้าชม | 1,631,361 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 651,302 ครั้ง |
เปิดร้าน | 22 มี.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 2 ก.ย. 2568 |